ข้อดีของการใช้ชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

        ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2540 ประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่ทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจระดับโลก ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงทรงมีพระราชดำริว่าด้วยการใช้ชีวิตด้วยปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจไปได้ด้วยดี โดยการใช้ชีวิตตามแนวทาง เศรษฐกิจพอเพียงนั้นประกอบไปด้วยส่วนสำคัญ 3 ประการ คือ

1.ความพอประมาณ หมายถึง การใช้ชีวิตบนความพอดี ไม่ทำอะไรจนเกินตัวเกินกำลัง หรือไม่เฉื่อยชาจนเกินไป

2.ความมีเหตุผล หมายถึงก่อนการลงมือทำเรื่องใดควรมีสติและคำนึงถึงเหตุผล รวมถึงไม่ใช้ชีวิตอย่างประมาท

3.ความมีภูมิคุ้มกัน หมายถึง การมีเกราะป้องกันตัวเองจากปัญหา หรือการสร้างทางเลือกเผื่อเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน

ซึ่งการนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันตามแนวทางข้างต้นนั้น ไม่เพียงแต่ช่วยลดการเกิดปัญหาทางการเงินส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีในอีกหลายด้าน ดังนี้

ลดการเกิดปัญหาการเงินส่วนบุคคล เมื่อจับจ่ายใช้สอยในสิ่งที่สำคัญไม่ใช้จ่ายฟุ้งเฟ้อจนเกินความพอดี และนำรายได้ส่วนหนึ่งฝากเป็นเงินออม หรือลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตัวเองมีความรู้ความเข้าใจย่อมส่งผลให้เกิดสภาพคล่องทางการเงิน หรือหาช่องทางสร้างรายได้เสริมเพื่อลดความเสี่ยงในกรณีที่อาจว่างงานกะทันหันและลด

การเกิดปัญหาการเงินครอบครัว เมื่อทุกคนในครอบครัวรู้จักใช้จ่ายอย่างมีเหตุมีผลโดยใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงย่อมส่งผลให้เกิดความคล่องตัวทางการเงินของครอบครัวและมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ทำให้ไม่ว่ายุคสมัยไหนหรือจะเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจภายในประเทศอีกกี่ครั้งก็จะทำให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้ด้วยดี

เกิดความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน หากทุกคนนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับการทำงาน ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ ไม่เกียจคร้าน หรือทำงานเกินกว่ากำลัง (ความพอเพียงและความมีเหตุผล) และหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อพัฒนาตัวเอง (ความมีภูมิคุ้มกัน) ย่อมส่งผลดีต่องาน สุขภาพ และการเงินของตัวเอง เมื่อทุกคนในองค์กรทำงานอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถและหมั่นพัฒนาความรู้ย่อมทำให้องค์กรมีความเจริญก้าวหน้า

ลดการเกิดปัญหาสุขภาพ การนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับการดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ พร้อมหาความรู้ในการดูแลสุขภาพเพิ่มเติม ย่อมทำให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เกิดปัญหาโรคภัยไข้เจ็บตามมาภายหลัง

จากข้อดีข้างต้นที่กล่าวมานั้น จะเห็นได้ว่าหากนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ ย่อมส่งผลให้ชีวิตมีแต่ความเจริญก้าวหน้าทั้งด้านการเงิน การงาน และสุขภาพ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียน วัยทำงาน หรือวัยเกษียณ ก็สามารถนำหลักการนี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมได้ทุกช่วงวัย